ECSTACY- Myrtille Tibayrenc

The presence of Catholicism in Bangkok and more generally in Thailand has always triggered my imagination. When I was invited by the LIV_ID collective to propose a piece for the Soi Convent[ion] pavilion I immediately wanted to do something related to the convent. The vagaries of life brought us to make the project online. So, the challenge is now to bring a physical place into the digital realm which has no physicality. I took this as a chance to give more liberty to my imagination around the topic of Christianity in Thailand and especially the history of the Carmelite convent. I read the biography of Theresa of Avila who was the reformer of the Carmelites back in 16th century Spain and discovered a very rich personality. I’ve had a passion for Gifs for a long time, I love their kitchness, and the fact that they are free to be used by anyone to express emotions. For this project I’ve decided to start creating my artist profile on Giphy, turning my paintings into fun gifs, starting by images inspired by the saint.


การมีอยู่ของนิกายคาทอลิคในกรุงเทพฯ และในประเทศไทยโดยกว้างนั้น ได้กระตุ้นจินตนาการของฉันมาโดยตลอด เมื่อฉันได้รับเชิญจากกลุ่ม LIV_ID ให้นำเสนองานศิลปะสำหรับนิทรรศการ Soi Convent[ion] ฉันก็อยากจะทำบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคอนแวนต์นี้ในทันที ความลำบากของชีวิตในช่วงเวลานี้ทำให้เราจำเป็นต้องจัดนิทรรศการออนไลน์ เช่นนั้นแล้ว ความท้าทายในตอนนี้จึงอยู่ที่การเคลื่อนย้ายสถานที่กายภาพมาอยู่บนแพลตฟอร์มดิจิตัลอันไร้ซึ่งกายภาพวัตถุ ฉันเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่จะให้อิสระกับจินตนาการของตัวเองมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องของคริสต์ศาสนาในประเทศไทย โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ของคอนแวนต์คาร์เมไลต์ (Carmelite) ฉันได้อ่านชีวประวัติของ Theresa of Avila ผู้ปฏิรูปคณะคาร์เมไลท์ในสเปนเมื่อศตวรรษที่ 16 และพบว่านี่เป็นอัตบุคคลที่ลุ่มลึกอย่างยิ่ง ฉันหลงใหลในภาพ Gifs มานานแล้ว ฉันชอบสุนทรียะที่ท้าทายคุณค่าของมันและการที่ใครจะนำมันมาใช้เพื่อแสดงอารมณ์ก็ได้ สำหรับโปรเจคนี้ ฉันตัดสินใจว่าจะสร้างโปรไฟล์ศิลปินบน Giphy แปลงภาพวาดของฉันให้เป็น Gifs สนุก ๆ โดยเริ่มจากภาพที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนักบุญ

Director of the Toot Yung Art Center since 2010, Myrtille Tibayrenc has become well known for her unconventional curatorial projects, and more recently for her work as an artist following an acclaimed debut at Serindia Gallery in Bangkok in 2017. Since then, she has regularly exhibited at both unorthodox sites and established venues in Bangkok and Chiang Mai. With the current closure of her art center during the pandemic, she has come to increasingly focus on her painting career.

Tibayrenc is a French citizen and grew up in Bolivia, the US, and France. She graduated from the Ecole des Beaux Arts in Dunkirk and continued her art training at the Ecole des Beaux Arts in Marseille, before moving to Thailand in 2006. Her figurative work, inspired as much by observation and photography as by images yielded from the web, is painterly and provocative. She works in large series, creating clusters of paintings resembling ex-voto walls found in churches. Each painting, at times very small, is worked as an icon, on wood or canvas. Composed of a strong central figure with a bare background, her technique and choice of subjects are directly inspired by Renaissance masters enhancing both the timelessness and anachronism of her images.


Myrtille Tibayrenc ผู้ดำรงดำแหน่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ศิลปะ Toot Yung ตั้งแต่ปี 2010 ได้กลายมาเป็นที่รู้จักผ่านการคัดสรรจัดแสดงนิทรรศการที่แปลกใหม่ และในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ผ่านงานของเธอเองในฐานะศิลปินที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากงานเปิดตัว ณ แกลเลอรี่ Serindia ที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2017 หลังจากนั้นมา เธอได้จัดแสดงนิทรรศการอย่างต่อเนื่อง ทั้งตามสถานที่แหวกขนบและตามพื้นที่ศิลปะที่มีชื่อเสียงในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ เนื่องด้วยศูนย์ศิลปะภายใต้การดูแลของเธอต้องปิดตัวลงจากการระบาดของโควิด-19 เธอจึงได้มุ่งความสนใจไปยังงานจิตรกรรมของเธอมากขึ้น

Tibayrenc เป็นพลเมืองฝรั่งเศสที่เติบโตมาทั้งในโบลีเวีย สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส เธอสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Ecole des Beaux Arts ณ เมืองดังเคิร์ก และได้ฝึกฝนศิลปศาสตร์ต่อที่มหาวิทยาลัย Ecole des Beaux Arts ณ เมืองมาร์แซล ก่อนจะย้ายมาพำนักที่ประเทศไทยเมื่อปี 2006 งานศิลปะที่เล่นกับภาพพจน์ของเธอ อันได้แรงบันดาลใจจากการสังเกตและภาพถ่ายไม่น้อยไปกว่าภาพที่ได้มาจากโลกอินเทอร์เน็ต มีลักษณะที่วิจิตรและท้าทาย เธอผลิตงานเป็นชุดจำนวนมาก สร้างกลุ่มก้อนภาพจิตรกรรมที่ดูเหมือนผนังภาพปฏิญาณที่พบได้ตามโบสถ์ ภาพแต่ละภาพ ซึ่งบางทีก็มีขนาดเล็กมากนั้น ถูกสร้างขึ้นราวกับรูปเคารพบนเนื้อไม้หรือผืนผ้าใบ ด้วยองค์ประกอบของตัวละครหลักและฉากหลังที่เปลือยเปล่า เทคนิคและหัวข้อที่เธอเลือกใช้ในงานของเธอนั้นได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงจากศิลปินในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ซึ่งขับเน้นทั้งลักษณะเหนือกาลเวลาและผิดยุคผิดสมัยในภาพของเธอ